วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

12 ประโยชน์ของมะนาว

12 ประโยชน์ของมะนาว กับสุขภาพผู้หญิง พูดจริง ! เกิดเป็นหญิงอย่าหยุดกินมะนาวเลย

ประโยชน์ของมะนาว

           ประโยชน์ของมะนาว พืชสมุนไพรรสเปรี้ยวจี๊ด ที่มาพร้อมสรรพคุณล้น ๆ โดยเฉพาะประโยชน์ของมะนาวต่อสุขภาพผู้หญิง

          ไม่ต้องบอกคงรู้กันอยู่บ้างว่ามะนาวมีประโยชน์หลายอย่าง แล้วรู้ไหมล่ะว่าประโยชน์ของมะนาวแบบเน้น ๆ โดยเฉพาะประโยชน์ต่อสุขภาพผู้หญิงนั้นมะนาวช่วยอะไรได้บ้าง และหากใครรู้แค่ว่า มะนาวนำมามาสก์หน้าได้ ช่วยลดน้ำหนักได้ แค่นั้นอาจยังรู้จักมะนาวน้อยไป และวันนี้เราจะมารู้จักประโยชน์ของมะนาวแบบเจาะลึกกัน ซึ่งเชื่อเลยว่าพออ่านไปถึงบรรทัดสุดท้าย สาว ๆ จะรีบไปหามะนาวมากินชัวร์​ !

 ประโยชน์ของมะนาว

 ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งรังไข่และมะเร็งเต้านม

          ผลการวิจัยของ Agricultural and Food Chemistry เมื่อปี 1998 และผลการศึกษาจากกระทรวงการเกษตร สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2001 พบว่า ในมะนาวและเลมอนมีสารลิโมนอยด์ (Limonoids) สารที่มีสรรพคุณต้านการกลายพันธุ์และช่วยป้องกันไม่ให้มีสิ่งใด­มากัดกินเซลล์ได้ และจากการทดลองสารลิโมนอยด์ (Limonoids) ในปริมาณ 100 ไมโครกรัม/มิลลิลิตร ทำให้ทราบว่าสารตัวนี้มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งรั­­­งไข่ แถมยังช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านมได้อีกต่างหาก 


          ทั้งนี้เราสามารถกินมะนาวแค่เพียงวันละ 150 กรัม ก็ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งลงได้แล้ว ทว่าก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องดื่มน้ำมะนาวเพียว ๆ อย่างเดียวนะคะ คุณสามารถนำเปลือกมะนาวไปตากแห้งหรือแปรรูปเป็นบ๊วย ไม่ก็ทำเมนูมะนาวดองไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน

 ป้องกันโรคปัสสาวะอักเสบ

          โรคปัสสาวะอักเสบมีแนวโน้มจะเกิดกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะของผู้หญิงมีขนาดสั้น อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับทวารหนัก ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงที่เชื้อแบคทีเรียบริเวณทวารหนักจะเคลื่อนเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะได้ง่าย จนก่อให้เกิดการฟักตัวของเชื้อและลามมาเป็นการอักเสบบริเวณท่อปัสสาวะได้

          และเมื่อได้รู้อย่างนี้ก็ยิ่งต้องรีบกินมะนาวด่วน ๆ เพราะมะนาวมีปริมาณโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยร่างกายขับสารพิษและสิ่งที่ตกตะกอนอยู่ในกระเพาะปัสสาวะและตับออกไปได้ อีกทั้งสรรพคุณฆ่าเชื้อที่มีอยู่ในมะนาว ยังจะช่วยรักษาและป้องกันอาการอักเสบที่อาจเกิดขึ้นในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วย

 ประโยชน์ของมะนาว

 ปรับสมดุลค่า pH ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุน

          โรคกระดูกพรุนเป็นผลพวงหนึ่งจากการที่ร่างกายมีกรดมากเกินไป ซึ่งความเสี่ยงนี้เราสามารถป้องกันได้ โดยการคั้นน้ำมะนาวและดื่มเป็นประจำ เนื่องจากเมื่อมะนาวผสมกับน้ำดื่มแล้ว มะนาวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือที่เราเรียกว่า Alkaline Water ซึ่งจะช่วยในการลดความเป็นกรดในเลือด อีกทั้งแร่ธาตุที่อยู่ในมะนาวยังช่วยปรับสมดุลความเป็นด่างให้แก่เลือด การดื่มน้ำมะนาวเป็นประจำจึงช่วยลดความเป็นกรดในร่างกาย โดยเฉพาะกรดยูริก ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของอาการปวดและการอักเสบนั่นเอง


 ลดไขมันเลว เพิ่มไขมันดี

          มะนาวเป็นพืชสมุนไพรที่อุดมไปด้วยกรดหลากชนิด อีกทั้งปริมาณวิตามินซีก็สูง ด้วยเหตุนี้จึงสามารถกำจัดปริมาณไขมันในร่างกายลงได้ และเมื่อระดับไขมันในร่างกายลดลง ระดับไตรกลีเซอไรด์ก็จะเป็นปกติ ส่งผลให้ปริมาณไขมันเลวในร่างกายลดลง ในขณะที่ปริมาณไขมันดีจะมีบทบาทมากขึ้น
   
          โดยวิธีกินก็ง่าย เพียงแค่ชงน้ำผึ้งหรือน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นจนละลาย ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำมีอุณหภูมิปกติ แล้วจึงบีบน้ำมะนาว 1 ผลผสมลงไป เพราะหากน้ำยังร้อน ความร้อนอาจทำลายวิตามินซีในมะนาวได้ โดยเมื่อคนจนเข้ากันดีแล้วก็รีบดื่มให้หมด และควรดื่มก่อนนอนสัก 15-20 นาที

  ประโยชน์ของมะนาว

 มะนาวลดความอ้วนก็ได้

          มีผลวิจัยออกมาแล้วว่า มะนาวสามารถช่วยกระตุ้นระบบการย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยดีท็อกซ์สารพิษในร่างกาย นอกจากนี้ในผิวเปลือกมะนาวก็ยังมีคาร์โบไฮเดรตที่จะช่วยลดความอยากอาหารได้นานขึ้นได้อีกด้วย
   
          แต่ทั้งนี้หากจะดื่มน้ำมะนาวลดความอ้วน เราก็มีสูตรลดความอ้วนด้วยมะนาวมาฝากดังนี้ค่ะ
   
           ดื่มมะนาวตอนเช้า ให้บีบมะนาว 1 ลูกในน้ำอุ่น 1 แก้ว และแช่เปลือกมะนาวลงไปด้วย แช่ไว้สักพักจากนั้นค่อยนำมาดื่ม น้ำผสมมะนาวจะช่วยดีท็อกซ์ร่างกาย ช่วยให้ระบบขับถ่ายคล่องขึ้น ส่งผลให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วขึ้นได้ (หากควบคุมอาหารและออกกำลังกายร่วมด้วยนะคะ)
   
           ดื่มน้ำมะนาวหลังมื้อกลางวัน บีบมะนาวลงในน้ำเย็น พร้อมกับแช่เปลือกมะนาวลงไปด้วย ทิ้งไว้สักพักแล้วค่อยดื่ม สารในน้ำมะนาวและเปลือกมะนาวจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


 ช่วยรักษาแผลและลดการอักเสบ
   
          เป็นสาวเป็นแส้จะปล่อยให้มีแผลบนร่างกายก็คงไม่งาม ถ้าอย่างนั้นเรามารักษาแผลและลดการอักเสบด้วยมะนาวกันดีกว่า เนื่องจากวิตามินซีในมะนาวมีคุณสมบัติสมานแผลและเป็นสารอาหารจำเป็นกับการบำรุงรักษากระดูกเนื้อเยื่อและกระดูกอ่อน แถมวิตามินซีในมะนาวยังพ่วงด้วยคุณสมบัติต้านการอักเสบให้คุณสาว ๆ ด้วยนะคะ

 ประโยชน์ของมะนาว

 เติมความชุ่มชื้นให้ร่างกาย
         
          หากช่วงนี้รู้สึกว่าผิวแห้งกร้านเหลือเกิน ลองดื่มมะนาว 1 ลูกผสมกับน้ำอุ่น 1 แก้ว เป็นประจำทุกวันก็ได้ค่ะ น้ำมะนาวจะเข้าไปเติมเต็มของเหลวที่ร่างกายขาดไปให้กลับมาอยู่ในระดับปกติ และช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นไปในตัว

 กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน

          ผู้หญิงกับคอลลาเจนเป็นอะไรที่ขาดกันแล้วพังแน่ ๆ แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ เพราะหากคุณกินมะนาวประมาณ 1 ถ้วยตวงได้ทุกวัน ผลการศึกษาของ University of Maryland Medical Center ก็บอกไว้ว่า มะนาวในปริมาณเท่านี้ก็เพียงพอต่อการกระตุ้นให้ร่างกายผลิตคอลลาเจนมามากขึ้นแล้ว คราวนี้ความเต่งตึงของผิว ผนังหลอดเลือด กระดูกอ่อน และเอ็นข้อต่าง ๆ ก็จะมีคอลลาเจนไปช่วยชะลอความเสื่อมอยู่ตลอด

  ประโยชน์ของมะนาว

 บำรุงผิวพรรณจากภายใน

          วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระต่าง ๆ สามารถช่วยลดริ้วรอย สิว แก้ปัญหาผิวมัน ทำให้ผิวเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล และช่วยฆ่าแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว แถมยังช่วยทำให้สุขภาพผิวดีจากภายในสู่ภายนอก โดยเราสามารถนำมะนาวมาใช้กับแผลเป็นโดยตรงเพื่อทำให้แผลเป็นจางลงได้อีกด้วย ได้ยินแบบนี้แล้วสาว ๆ จะไม่ดื่มน้ำมะนาวได้ไงล่ะเนอะ
 ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น

          กลิ่นปากไม่ใช่เรื่องตลก โดยเฉพาะหากสาว ๆ มีกลิ่นปากนี่ถือว่าเสียเซลฟ์สุด ๆ ดังนั้นหลังแปรงฟันเสร็จแล้วลองดื่มน้ำมะนาวช่วยระงับกลิ่นปากและเพิ่มลมหายใจหอมสดชื่นก็ดีค่ะ นอกจากนี้มะนาวยังมีคุณสมบัติบรรเทาอาการปวดฟันและแก้โรคเหงือกอักเสบได้อีกด้วยนะ

 ประโยชน์ของมะนาว

 ลดสิวฝ้า

          มะนาวมีสภาวะเป็นกรดอ่อน ๆ มีคุณสมบัติผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกไป ลดการอุดตันในรูขุมขน และช่วยกำจัดเชื้อโรค รวมทั้งไขมันออกไปได้ โดยวิธีใช้สามารถผสมแป้งดินสอพองกับน้ำมะนาวจนเป็นครีมเหนียวข้น แล้วทาบริเวณที่เป็นสิวทุกคืนก่อนนอน สิวจะค่อย ๆ ยุบตัวและหายไป มีใบหน้าที่สวยใสไร้สิวได้ง่าย ๆ แต่ทั้งนี้สงวนสิทธิ์เฉพาะคนที่ไม่มีสิวหนองและสิวอักเสบเท่านั้นนะจ๊ะ

 บำรุงเล็บ

          น้ำมะนาวสามารถใช้ในการบำรุงเล็บเพื่อให้เล็บเราสวยและแข็งแรงได้ โดยการฝานมะนาวพร้อมเปลือกออกเป็นซีก ๆ แล้วเอามาขัด ๆ ถู ๆ ตามเล็บมือเล็บเท้าเพื่อเป็นการทำความสะอาด โดยถูไปตั้งแต่ผิวเล็บ ตลอดจนทุกซอกทุกมุมของเล็บ สูตรนี้สามารถทำได้บ่อย ๆ เพราะเล็บเป็นเซลล์ที่ตายแล้ว ดังนั้นจะไม่มีอาการแพ้แน่นอน ใครที่อยากมีเล็บสวย ๆ ก็ลองเอาไปทำได้นะคะ

          มะนาวถือเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่ง เพราะนอกจากประโยชน์ดังที่บอกไปแล้ว มะนาวยังมีวิตามินซีสูง ช่วยในการรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ลดอาการเหงือกบวม ช่วยขับพยาธิและรักษาอาการท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง ท้องแน่น ท้องเฟ้อ รักษาอาการโรคกระเพาะ ท้องร่วง แก้อาการบิด รักษาอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยหรือขัดเบา ช่วยฟอกและบำรุงโลหิต รักษาอาการโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา และยังช่วยรักษาอาการปวดข้อได้อีกต่างหาก เห็นไหมล่ะว่าประโยชน์ของมะนาวเขาจัดเต็มจริง ๆ 


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Livestrong
Oganic Facts

สิวขึ้นไม่เลิกแน่ ถ้าไม่แก้ด้วยการเลี่ยง 8 พฤติกรรมนี้

สิวขึ้นไม่เลิกแน่ ถ้าไม่แก้ด้วยการเลี่ยง 8 พฤติกรรมนี้

สาเหตุที่ทำให้เป็นสิว
          
          สิวขึ้นไม่หาย ? ก็ถ้ายังเลี่ยงพฤติกรรม 8 อย่างนี้ไม่ได้ ฟันธงเลยว่ารักษาให้ดียังไงก็ไม่มีทางหายหมดแน่นอน
          จริงอยู่ที่สิวเป็นเรื่องธรรมชาติของเรา แต่ถ้าเป็นแล้วแป๊บเดียวก็หาย หรือเป็นแค่เม็ดสองเม็ดก็ยังพอทนได้ใช่ไหมล่ะ แต่ถ้าเป็นอยู่ตลอดไม่หายสักที หาหมอหมดเงินไปมากมายแล้วก็ไม่หายขาดสักที กระปุกดอทคอมว่านั่นอาจจะเป็นเพราะว่าคุณยังทำ 8 อย่างนี้อยู่ตลอดน่ะสิ อ๊ะ ... สาวคนไหนที่เป็นสิวประจำลองเช็กดูสิว่ายังทำสิ่งเหล่านี้อยู่หรือเปล่า

สาเหตุที่ทำให้เป็นสิว

 ใช้กันแดดตัวที่ใบหน้า

          จริงอยู่ที่การทากันแดดน่ะเป็นสิ่งดีและช่วยป้องกันสิวได้ แต่ก็ควรใช้กันแดดสำหรับใบหน้าโดยเฉพาะเท่านั้นนะคะ เพราะกันแดดสำหรับร่างกายไม่ได้ผลิตมาเพื่อผิวหน้าที่บอบบางซะหน่อย และกันแดดสำหรับตัวส่วนใหญ่ก็มีน้ำมันแร่ (Mineral Oil) ที่ทำให้อุดตันผสมอยู่ด้วย
 ใช้ครีมนวดผม

          สังเกตดูสิว่าสิวขึ้นตามกรอบหน้าหรือตามไรผมบ้างหรือไม่ ถ้าใช่ละก็นั่นหมายความว่าคุณเลือกใช้ครีมนวดผมที่ไม่เหมาะสมแล้วล่ะ ถ้ายังอยากใช้ครีมนวดผมแต่ไม่อยากเป็นสิวละก็ ลองเลือกครีมนวดผมที่ไม่มีส่วนผสมของขี้ผึ้ง (Beeswax), ทัลก์ (Talc), น้ำมันแร่, สารขี้ผึ้ง (Petrolatum), น้ำมันมะพร้าว, ลาโนลิน (Lanolin) และไอโซโพพิล ไมริสเตท (Isopropyl Myristate) ไว้ก่อนจะดีกว่า

สาเหตุที่ทำให้เป็นสิว

 ขัดหน้ารุนแรง

          เลิกความคิดที่ว่าการขัดหน้าแรง ๆ จะช่วยให้หน้าสะอาดเอี่ยมไร้สิวไปเถอะ เพราะยิ่งขัดถูหรือแม้แต่ล้างหน้าแรง ๆ น่ะยิ่งเป็นการรบกวนผิวและกระตุ้นให้เป็นสิวมากขึ้นไปอีก รวมทั้งถ้าขัดหน้าบ่อยไปหน้าจะแห้งผาก ทำให้น้ำมันถูกผลิตขึ้นมามากกว่าเดิม ลองมาเปลี่ยนเป็นขัดหน้าสักสัปดาห์ละ 2 หนก็พอแล้ว

 ไม่เปลี่ยนปลอกหมอน

          รู้ไว้เถอะว่าปลอกหมอนที่นอนอยู่ทุกคืนน่ะ เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคแบคทีเรียชั้นดีเลย ถ้าทิ้งไว้นานไม่ยอมเปลี่ยน มัวแต่ปล่อยให้สิ่งสกปรกหมักหมมอยู่แบบนั้น เวลานอนใบหน้าก็ต้องไปโดนปลอกหมอนสกปรก ๆ แบบนี้อีกทุกคืน แล้วเมื่อไรสิวจะหายล่ะคะสาว ๆ 

สาเหตุที่ทำให้เป็นสิว

 ไม่เช็ดทำความสะอาดโทรศัพท์

          ลองนึกดูสิว่าวัน ๆ หนึ่งคุณเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ตรงไหนบ้าง ก็คงไม่พ้นบนโต๊ะกินข้าวข้างนอกหรือโต๊ะทำงานที่มีฝุ่นเพียบใช่ไหมล่ะ เวลาหยิบมาคุยแล้วแนบกับหน้าก็ยิ่งทำให้สิ่งสกปรกโดนหน้า ทำให้เกิดสิวหนักเข้าไปอีก ทางที่ดีควรใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดฆ่าเชื้อโรคบ้างนะคะ

 ไม่ล้างแปรงแต่งหน้า

          อย่าขี้เกียจล้างแปรงแต่งหน้าเลยนะสาว ๆ เพราะแปรงแต่งหน้านี่แหละสกปรกและเป็นแหล่งรวมเชื้อแบคทีเรียไว้มากเลยแหละ ถ้าไม่อยากเป็นสิวก็เอาแปรงแต่งหน้าออกมาล้างสักสัปดาห์ละครั้ง ก็จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดสิวได้เยอะ

สาเหตุที่ทำให้เป็นสิว

 ขี้เกียจล้างเครื่องสำอาง

          ไม่ว่าจะเมาจากปาร์ตี้หนัก ๆ หรือจะง่วงมากขนาดไหนก็ตาม ยังไงซะสาว ๆ ก็ห้ามลืมที่จะล้างเครื่องสำอางเด็ดขาด เพราะแค่แช่เครื่องสำอางไว้บนหน้าข้ามคืนนี่ก็ถือว่าแย่มากแล้ว งานนี้ไม่เพียงแต่สิวอุดตันขึ้นเพียบเท่านั้น แต่อาจจะทำให้หน้าแก่ก่อนวัยด้วยนะ ถ้ารู้ตัวว่าขี้เกียจล้างละก็ หาที่เช็ดเครื่องสำอางแบบแผ่นวางไว้บนหัวเตียงเลยดีกว่า

 บีบสิว

          รู้ว่ามันห้ามใจได้ยากเวลาเห็นสิวขึ้นบนใบหน้า เพราะใครเห็นก็อยากจะกำจัดออกกันทั้งนั้น แต่การบีบสิวไม่ได้ทำให้สิวยุบหายไปนะจ๊ะ เพราะจะยิ่งทำให้แบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้เป็นสิวใหม่ได้ง่ายขึ้น ที่สำคัญยังทิ้งรอยไว้ให้ช้ำใจอีกต่างหาก

          ถ้ามั่นใจว่าดูแลตัวเองไม่ให้สิวขึ้นดีแล้ว แต่สิวก็ยังขึ้นอยู่ไม่หยุด ลองหยุด 8 พฤติกรรมนี้ดูสิ ถ้าทำได้รับรองต่อไปก็หน้าใสไร้สิวไม่ต้องไปหาหมออีกแล้วจ้า

ที่มา : กระปุกดอทคอม

สูตรพอกหน้าลดสิว 6 สูตรขั้นเทพ

สูตรพอกหน้าลดสิว 6 สูตรขั้นเทพ ! หมดปัญหาสิวป่วนกวนใจ

สูตรพอกหน้าลดสิว
          
          สูตรพอกหน้าลดสิว รวม 6 สูตรเด็ดจัดการกับปัญหาสิวแบบขั้นเทพ รับรองหมดปัญหาสิวป่วนกวนใจแน่นอน

          ปัญหาสิว ถึงแม้จะเป็นแค่เม็ดเล็ก ๆ บนใบหน้า แต่ก็เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้หญิง ทำให้ใครหลายคนต้องคอยคิดหาวิธีจัดการด้วยการซื้อครีมแต้มสิวหรือแม้แต่ครีมบำรุงผิวราคาแพง ๆ มาใช้กัน แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่ได้ผล บางรายถึงขั้นเป็นหนักกว่าเดิมซะอีก แล้วคราวนี้จะทำอย่างไรดี ? ไม่ต้องห่วงไปค่ะสาว ๆ เอาเป็นว่าก่อนที่จะเสียเงินกับการรักษาสิวไปมากกว่านี้ ลองหันมาทำสูตรพอกหน้าลดสิว 6 สูตรเด็ดที่กระปุกดอทคอมคัดเน้น ๆ เอามาฝากกันก่อนดีกว่า รับรองว่าสูตรเด็ดจากธรรมชาตินี่แหละ ! ได้ผล และช่วยจัดการกับปัญหาสิวให้ลดลงได้อย่างแน่นอน คอนเฟิร์ม !

สูตรพอกหน้าลดสิว

 มะเขือเทศ และมะนาว

          นำมะเขือเทศประมาณ 1-2 ลูก ไปปั่นให้ละเอียด ผสมน้ำมะนาวลงไปครึ่งซีก คนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียป้องกันการเกิดสิวใหม่ และช่วยทำให้สิวที่เป็นอยู่ยุบเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลงได้ง่ายอีกด้วย
สูตรพอกหน้าลดสิว

 โยเกิร์ตรสธรรมชาติ

          สูตรนี้ง่ายมาก ๆ เลยค่ะสาว ๆ เพียงแค่นำโยเกิร์ตรสธรรมชาติที่แช่เย็นแล้วมาพอกหน้า นวดเบา ๆ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที จากนั้นล้างหน้าให้สะอาด สูตรนี้สาว ๆ สามารถทำได้ทุกวันเลยนะคะ สิวผดหรือสิวเม็ดเล็ก ๆ จะค่อย ๆ หายไป และยังจะช่วยกำจัดเชื้อแบคทีเรียลดสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย

สูตรพอกหน้าลดสิว

 ดินสอพอง ผงขมิ้นชัน และน้ำผึ้ง

          นำดินสอพองมาละลายกับน้ำสะอาดพอข้น ๆ จากนั้นผสมผงขมิ้นชันและน้ำผึ้งลงไปเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วค่อยล้างออกให้สะอาด หลังพอกหน้าเสร็จจะรู้สึกว่าหน้านุ่มขึ้น นอกจากนี้ยังจะช่วยทำให้สิวอับเสบแห้งลงได้ง่าย แถมยังจะช่วยจัดการกับสิวผดที่มากวนใจได้อีกด้วยนะสาว ๆ
สูตรพอกหน้าลดสิว

 น้ำผึ้ง และมะนาว

          นำน้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมกับน้ำมะนาว 1 ช้อนชา คนให้เข้ากัน จากนั้นให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้ทำบ่อย ๆ จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ช่วยให้สิวแห้ง รอยสิวจางลงได้เร็ว และช่วยป้องกันสิวใหม่ที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังจะทำให้รูขุมขนเล็กลงอีกด้วย

สูตรพอกหน้าลดสิว

 มะขามเปียก และนมสด

          นำมะขามเปียกมาผสมกับนมสด พอให้ได้เนื้อข้น ๆ ไม่เหลวจนเกินไป จากนั้นให้นำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด สูตรนี้สามารถทำได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง จะช่วยลดสิวได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นสิวอักเสบ สิวผด สิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหัวดำ หรือแม้แต่รอยสิวก็ยังจะช่วยให้ดูจางลงได้ง่าย ๆ
สูตรพอกหน้าลดสิว

 ไข่ขาว และน้ำมะนาว

          นำไข่มาตอกใส่ถ้วย จากนั้นแยกเอาไข่แดงออก (ใช้แต่ไข่ขาว) ผสมน้ำมะนาวลงไปประมาณ 1 ช้อนชา ตีให้เข้ากันจนเป็นฟอง แล้วให้นำสำลีแผ่นบาง ๆ มาชุบแล้วแปะลงไปบนใบหน้า ทิ้งไว้จนไข่ขาวเริ่มแห้ง แล้วค่อย ๆ ลอกแผ่นสำลีออก จากนั้นให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นตามด้วยน้ำเย็นให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยกระชับรูขุมขน ลดสิวเสี้ยน สิวหัวดำ และช่วยให้หน้ามันน้อยลงได้ด้วย

          สูตรพอกหน้าลดสิวเหล่านี้ ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะสาว ๆ เอาเป็นว่าชอบสูตรไหน อยากลองสูตรไหน ก็เอาไปทำกันได้เลย รับรองว่าสิวจะค่อย ๆ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนหมดปัญหาสิวป่วนกวนใจแน่นอน


ที่มา : กระปุกดอทคอม

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ สิวหายเกลี้ยงไม่มีเหลือกวนใจ

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ
          
          วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ โบกมือลาหน้าสิวด้วย 7 เคล็ดลับรักษาสิวจากธรรมชาติ รับรองสิวหายเกลี้ยงไม่มีเหลือกวนใจแน่นอน

          สำหรับคุณสาว ๆ ที่มีปัญหากับสิวตัวการมานานหลายปี ลองใช้ครีมราคาแพง ๆ ก็แล้ว ทำสารพัดวิธีก็แล้ว แต่สิวเจ้ากรรมก็ไม่มีวี่แววว่าจะหายขาดสักที บางครั้งหายแล้วก็ยังขึ้นมาใหม่เรื่อย ๆ บวกกับทิ้งรอยดำเอาไว้ให้ดูต่างหน้าเล่นอีก แบบนี้ล่ะช้ำใจแย่ ถ้าหากใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ บอกเลยว่าไม่ต้องไปหาวิธีรักษาสิวราคาแพง ๆ ที่ไหนอีกแล้วล่ะค่ะ แค่หันมาพึ่งวิธีแบบธรรมชาติ รับรองว่าช่วยได้แน่นอน แถมยังทำได้ง่าย ๆ เผลอ ๆ กลายเป็นสิวหายเกลี้ยงไม่มีเหลือให้กวนใจอีกต่างหาก เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็อย่ารอช้า รีบมาดูสูตรรักษาสิวแบบธรรมชาติที่กระปุกดอทคอมนำมาฝากกันเลยดีกว่า

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

 พอกหน้าด้วยดินสอพอง ผงขมิ้นชัน และน้ำผึ้ง

          นำดินสอพองมาบดละลายน้ำ ผสมกับผงขมิ้นชัน และน้ำผึ้ง คนให้เป็นเนื้อเดียวกัน และนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วค่อยล้างหน้าให้สะอาด ทำบ่อย ๆ จะช่วยทำให้สิวอักเสบยุบลง แผลสิวค่อย ๆ แห้ง และหายไปในที่สุด

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

  พอกหน้าด้วยมะละกอ น้ำผึ้ง และน้ำมะนาว

          นำมะลอกอสุกมาบดให้ละเอียด ผสมน้ำผึ้ง และมะนาวอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะลงไป คลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำส่วนผสมที่ได้มาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก สูตรนี้จะช่วยรักษาสิวอักเสบและลดรอยแดงได้

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

  ใช้น้ำมะนาวทาหน้า

          บีบน้ำมะนาวสด ๆ ในถ้วย ผสมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำสำลีมาชุปน้ำมะนาวทาหน้า โดยให้ทาทิ้งไว้ก่อนนอนโดยไม่ต้องล้างออก วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวแห้งและยุบตัวเร็ว อีกทั้งยังจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อีกด้วย

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

  ทาหน้าด้วยหอมแดง

          ปอกเปลือกหอมแดง ฝานเป็นแว่น ๆ และทุบเล็กน้อยเพื่อให้น้ำหอมแดงออกมา จากนั้นให้นำหอมแดงมาทาบริเวณที่เป็นสิว โปะทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที ค่อยเอาออกแล้วล้างหน้าให้สะอาด วิธีนี้จะช่วยทำให้สิวอักเสบยุบตัวลง และทำให้รอยดำรอยแดงจากสิวจางลง แถมยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

  มาสก์หน้าด้วยไข่ขาว

          นำสำลีไปชุบกับไข่ขาว แล้วนำมาทาโปะบาง ๆ ให้ทั่วใบหน้า โดยเว้นบริเวณรอบดวงตา และริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยลอกออก เสร็จแล้วให้ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยกำจัดสิวเสี้ยนและสิวอุดตันได้ รวมไปถึงชำระสิ่งสกปรกที่อยู่บริเวณผิวหน้าได้ดี และรูขุมขนก็จะกระชับขึ้นด้วย


  พอกหน้าด้วยแตงกวา

          นำแตงกวาไปปอกเปลือก สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ละเอียด นำไปแช่ในตู้เย็นไว้จนเย็น จากนั้นให้นำมาพอกหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยลดสิวอักเสบ ลดความมันบนใบหน้าป้องกันการเกิดสิวใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับ และหน้าใสขึ้นด้วย

วิธีรักษาสิว แบบธรรมชาติ

  ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ

          การดื่มน้ำสะอาดที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะช่วยล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้หน้าใส สิวหาย และผิวพรรณดีขึ้นได้


          วิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้หายเร็วอย่างที่คิด แต่ถ้าทำบ่อย ๆ ผลลัพธ์ที่ได้รับรองว่าคุ้มค่ากับที่รอคอยแน่นอนค่ะ เพราะหน้าของคุณจะสวยใสไกลสิว ที่สำคัญยังประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย



ที่มา : กระปุกดอทคอม